สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนสู่การศึกษาฐานสมรรถนะ
- ปัญหาความไม่เสมอภาคทางการศึกษา – ระบบการศึกษาอิงมาตรฐานเดิมไม่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันสำหรับผู้เรียนทุกคน
- การเน้นเวลาเรียนแทนที่ผลลัพธ์ – ระบบเดิมเน้นการนับเวลาเข้าเรียน (Seat Time) มากกว่าหลักฐานความรอบรู้หรือความเชี่ยวชาญของผู้เรียน
- ตัวชี้วัดจำนวนมาก – หลักสูตรแกนกลางฯ 2551 มีตัวชี้วัดถึง 2,056 ตัว แบ่งเป็นตัวชี้วัดระหว่างทาง 1,285 ตัว และตัวชี้วัดปลายทาง 771 ตัว
- การตอบโจทย์ทักษะในศตวรรษที่ 21 – ต้องการปรับการศึกษาให้เน้นการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และการพัฒนาทักษะที่ถ่ายโอนได้
ความเชื่อพื้นฐานของการศึกษาฐานสมรรถนะ
- การศึกษาฐานสมรรถนะจะทดแทนระบบ โครงสร้าง และหลักการสอนแบบดั้งเดิม
- การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา
- ผู้เรียนต้องเรียนรู้ทั้งความรู้ทางวิชาการ ทักษะ และมีความพร้อมที่จะนำไปใช้
- ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ และต้องได้รับการท้าทายและสนับสนุน
- การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งเป็นการทำงานร่วมกันและฝังรากในสังคม
- ความโปร่งใสของความคาดหวังการเรียนรู้และผลการประเมินเป็นสิ่งจำเป็น
- ความเสมอภาคเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบการศึกษาฐานสมรรถนะ
หลักการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ 7 ประการ
- ผู้เรียนได้รับการเสริมพลังอำนาจ – ในการตัดสินใจเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ของตนเอง
- การประเมินเป็นสิ่งที่มีความหมายและมองในเชิงบวก – เป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การตัดสินผล
- ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียมแต่แตกต่างกัน – ตามความต้องการการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
- ความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับหลักฐานความเชี่ยวชาญ – ไม่ใช่นับเวลาเข้าเรียน
- ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยความกระตือรือร้นโดยใช้เส้นทางที่หลากหลาย – แต่ละคนมีจังหวะการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
- กลยุทธ์การสร้างหลักประกันความเท่าเทียม – ถูกฝังรากลึกในวัฒนธรรม โครงสร้าง และหลักการสอน
- ความคาดหวังการเรียนรู้ต้องชัดเจน โปร่งใส วัดผลได้ และถ่ายโอนได้ – ทักษะที่ถ่ายโอนได้คือทักษะที่นำไปใช้ได้ในบริบทต่างๆ
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในระบบการศึกษา
- ปรับเปลี่ยนจากตารางสอนของครูสู่แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล – โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้เรียนตามความต้องการรายบุคคล
- การประเมินผลเปลี่ยนจากการตัดสินสู่การพัฒนา – ใช้ Assessment for Learning และ Assessment as Learning
- เปลี่ยนจากการวัดการเข้าเรียนสู่การวัดผลงาน – ผลงานที่มีคุณภาพเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จในการเรียนรู้
- ปรับเปลี่ยนไปสู่เส้นทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย – ผู้เรียนแต่ละคนมีเส้นทางการเรียนรู้ของตนเอง
- สร้างการเรียนรู้ที่ถ่ายโอนได้ – เน้นทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในบริบทที่หลากหลาย เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์
การศึกษาฐานสมรรถนะเป็นทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์การจัดการศึกษามากกว่าแบบอิงมาตรฐาน แต่ต้องอาศัยการปรับกรอบแนวคิดและการเตรียมความพร้อมให้กับครูและผู้เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน
สรุปและเรียบเรียงโดย นายจักรพงษ์ แผ่นทอง งานวัดและประเมินผลโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
เอกสารอ้างอิง : เอกสารวิชาการ ปีที่ 27 ฉบับที่ 3