สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนสู่การศึกษาฐานสมรรถนะ

  1. ปัญหาความไม่เสมอภาคทางการศึกษา – ระบบการศึกษาอิงมาตรฐานเดิมไม่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันสำหรับผู้เรียนทุกคน
  2. การเน้นเวลาเรียนแทนที่ผลลัพธ์ – ระบบเดิมเน้นการนับเวลาเข้าเรียน (Seat Time) มากกว่าหลักฐานความรอบรู้หรือความเชี่ยวชาญของผู้เรียน
  3. ตัวชี้วัดจำนวนมาก – หลักสูตรแกนกลางฯ 2551 มีตัวชี้วัดถึง 2,056 ตัว แบ่งเป็นตัวชี้วัดระหว่างทาง 1,285 ตัว และตัวชี้วัดปลายทาง 771 ตัว
  4. การตอบโจทย์ทักษะในศตวรรษที่ 21 – ต้องการปรับการศึกษาให้เน้นการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และการพัฒนาทักษะที่ถ่ายโอนได้

ความเชื่อพื้นฐานของการศึกษาฐานสมรรถนะ

  1. การศึกษาฐานสมรรถนะจะทดแทนระบบ โครงสร้าง และหลักการสอนแบบดั้งเดิม
  2. การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา
  3. ผู้เรียนต้องเรียนรู้ทั้งความรู้ทางวิชาการ ทักษะ และมีความพร้อมที่จะนำไปใช้
  4. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ และต้องได้รับการท้าทายและสนับสนุน
  5. การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งเป็นการทำงานร่วมกันและฝังรากในสังคม
  6. ความโปร่งใสของความคาดหวังการเรียนรู้และผลการประเมินเป็นสิ่งจำเป็น
  7. ความเสมอภาคเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบการศึกษาฐานสมรรถนะ

หลักการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ 7 ประการ

  1. ผู้เรียนได้รับการเสริมพลังอำนาจ – ในการตัดสินใจเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ของตนเอง
  2. การประเมินเป็นสิ่งที่มีความหมายและมองในเชิงบวก – เป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การตัดสินผล
  3. ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียมแต่แตกต่างกัน – ตามความต้องการการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
  4. ความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับหลักฐานความเชี่ยวชาญ – ไม่ใช่นับเวลาเข้าเรียน
  5. ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยความกระตือรือร้นโดยใช้เส้นทางที่หลากหลาย – แต่ละคนมีจังหวะการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
  6. กลยุทธ์การสร้างหลักประกันความเท่าเทียม – ถูกฝังรากลึกในวัฒนธรรม โครงสร้าง และหลักการสอน
  7. ความคาดหวังการเรียนรู้ต้องชัดเจน โปร่งใส วัดผลได้ และถ่ายโอนได้ – ทักษะที่ถ่ายโอนได้คือทักษะที่นำไปใช้ได้ในบริบทต่างๆ

การเปลี่ยนแปลงสำคัญในระบบการศึกษา

  1. ปรับเปลี่ยนจากตารางสอนของครูสู่แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล – โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้เรียนตามความต้องการรายบุคคล
  2. การประเมินผลเปลี่ยนจากการตัดสินสู่การพัฒนา – ใช้ Assessment for Learning และ Assessment as Learning
  3. เปลี่ยนจากการวัดการเข้าเรียนสู่การวัดผลงาน – ผลงานที่มีคุณภาพเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จในการเรียนรู้
  4. ปรับเปลี่ยนไปสู่เส้นทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย – ผู้เรียนแต่ละคนมีเส้นทางการเรียนรู้ของตนเอง
  5. สร้างการเรียนรู้ที่ถ่ายโอนได้ – เน้นทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในบริบทที่หลากหลาย เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์

การศึกษาฐานสมรรถนะเป็นทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์การจัดการศึกษามากกว่าแบบอิงมาตรฐาน แต่ต้องอาศัยการปรับกรอบแนวคิดและการเตรียมความพร้อมให้กับครูและผู้เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน

สรุปและเรียบเรียงโดย นายจักรพงษ์ แผ่นทอง งานวัดและประเมินผลโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
เอกสารอ้างอิง : เอกสารวิชาการ ปีที่ 27 ฉบับที่ 3